10 พฤติกรรมสุนัขที่เจ้าของควรรู้ หลายคนเลี้ยงสุนัขด้วยความรักและความเอ็นดู แต่กลับเจอปัญหาที่ทำให้สงสัยอยู่เสมอ เช่น ทำไมสุนัขถึงชอบเห่าไม่หยุด? ทำไมชอบกัดรองเท้า? หรือบางครั้งก็มานั่งจ้องหน้าเจ้าของโดยไม่มีเหตุผล หากคุณเคยงงกับพฤติกรรมเหล่านี้ บทความนี้จะช่วยคลายความสงสัยให้เอง
การทำความเข้าใจพฤติกรรมสุนัขไม่เพียงช่วยให้เราเลี้ยงดูได้ง่ายขึ้น แต่ยังทำให้เราสื่อสารกับเพื่อนสี่ขาได้ดีกว่าเดิม ความเข้าใจนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น และทำให้สุนัขของคุณรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขมากขึ้นด้วย
1. การเห่า — ภาษาหลักของสุนัข
เสียงเห่าของสุนัขไม่ได้มีความหมายเดียว หลายครั้งที่เจ้าของเข้าใจว่า “เห่าเพราะกวนใจ” แต่จริง ๆ แล้วสุนัขใช้การเห่าเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร
- เห่าเตือนภัย – เมื่อได้ยินเสียงแปลก ๆ หรือเห็นคนแปลกหน้า
- เห่าเรียกร้องความสนใจ – เช่น อยากเล่น อยากออกไปข้างนอก
- เห่าด้วยความเครียดหรือกลัว – เสียงจะสั้นและถี่
เจ้าของควรแยกแยะให้ได้ว่าเสียงเห่าแบบไหนคืออันตราย แบบไหนคือการเรียกร้อง การเข้าใจตรงนี้จะช่วยให้การฝึกสุนัขง่ายขึ้น

2. การหางกระดิก — ไม่ได้หมายถึง “ดีใจ” เสมอไป
หลายคนคิดว่าหางกระดิก = สุนัขดีใจ แต่จริง ๆ แล้วตำแหน่งและจังหวะของการแกว่งบอกอารมณ์ได้หลากหลาย
- หางกระดิกเร็ว ๆ ต่ำ ๆ = ตื่นเต้นหรือวิตกกังวล
- หางกระดิกช้า ๆ ระดับกลาง = สบายใจ
- หางชี้ตรง แข็ง = กำลังระวังภัย
ดังนั้น การดูหางควรพิจารณาร่วมกับท่าทางอื่น เช่น หูและสายตา
3. ชอบกัดรองเท้าและเฟอร์นิเจอร์
ลูกสุนัขมักจะชอบกัดทุกสิ่งรอบตัว เพราะฟันกำลังขึ้นและต้องการระบายความคัน ในขณะที่สุนัขโตอาจกัดเพราะเบื่อ วิตกกังวล หรือไม่ได้รับการออกกำลังกายเพียงพอ
วิธีแก้คือให้ของเล่นเคี้ยวที่เหมาะสม และพาออกไปใช้พลังงานบ่อย ๆ เพื่อลดความเครียดและความเบื่อหน่าย
4. นั่งจ้องหน้าเจ้าของ
การจ้องตาของสุนัขเป็นการสื่อสารที่ลึกซึ้ง บางครั้งมันหมายถึงความรักและความไว้วางใจ คล้าย ๆ กับการที่มนุษย์สบตากัน แต่หากเป็นการจ้องนิ่งโดยไม่กะพริบตา ร่วมกับท่าทางแข็ง ๆ อาจหมายถึงการท้าทายหรือป้องกันตัว
5. ชอบนอนหงายโชว์พุง
ถ้าสุนัขของคุณชอบนอนหงายโชว์พุง บอกได้เลยว่าเขาไว้ใจคุณมาก เพราะท่านี้เป็นท่าที่อ่อนแอที่สุด การโชว์พุงจึงเป็นการบอกว่า “ฉันปลอดภัยเมื่ออยู่กับคุณ”
อย่างไรก็ตาม บางครั้งการนอนหงายก็อาจเป็นการคลายร้อนเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อสุนัขนอนบนพื้นเย็น ๆ
6. สุนัขไล่หางของตัวเอง
หลายคนคิดว่าเป็นพฤติกรรมขำ ๆ แต่ความจริงมีหลายสาเหตุ
- เบื่อ ไม่มีอะไรทำ
- เครียด
- ปัญหาผิวหนังหรือพยาธิภายนอก
- โรคทางระบบประสาท (พบได้น้อยแต่มีจริง)
ถ้าเห็นสุนัขไล่หางบ่อย ๆ ควรหาของเล่นมาให้เล่น หรือพาไปตรวจสุขภาพ
7. การขุดดินหรือขุดเบาะ
สัญชาตญาณของสุนัขหลายพันธุ์คือการขุด ไม่ว่าจะเป็นการขุดดินเพื่อหาที่ซ่อน ขุดเพื่อทำรังนอน หรือขุดเพราะพลังงานล้น ในบ้านบางครั้งเราจะเห็นสุนัขขุดหมอนหรือโซฟา ซึ่งเป็นการเลียนแบบพฤติกรรมธรรมชาติ
เจ้าของสามารถแก้ไขได้โดยพาไปวิ่งหรือเล่นเกมที่ใช้พลังงานแทนการขุด
8. เลียมือหรือหน้าเจ้าของ
การเลียเป็นการสื่อสารที่ซับซ้อน อาจหมายถึงความรัก ความเคารพ หรือแม้แต่การขอความสนใจ ลูกสุนัขมักเลียแม่เพื่อขออาหาร และนำพฤติกรรมนั้นมาใช้กับเจ้าของในภายหลัง
ถ้าสุนัขเลียมากเกินไป อาจเป็นสัญญาณของความเครียดหรือความเบื่อหน่าย ควรสังเกตควบคู่กับพฤติกรรมอื่น
9. การวิ่งวน (Zoomies)
หลายคนคงเคยเห็นสุนัขที่อยู่ ๆ ก็วิ่งวนไปมาในบ้านอย่างบ้าคลั่ง พฤติกรรมนี้เรียกว่า Zoomies เกิดจากพลังงานสะสมที่ต้องการปลดปล่อย เป็นเรื่องปกติและไม่อันตราย แต่ถ้าเกิดบ่อยเกินไป อาจหมายถึงสุนัขไม่ได้ออกกำลังกายเพียงพอ
10. การซ่อนตัวหรือเกาะเจ้าของ
เมื่อสุนัขรู้สึกกลัว เสียงดัง ฟ้าผ่า หรือเจอคนแปลกหน้า เขาอาจซ่อนตัวหรือเข้ามาเกาะเจ้าของ พฤติกรรมนี้บอกชัดเจนว่าสุนัขมองคุณเป็นที่ปลอดภัยที่สุด สิ่งที่ควรทำคือให้กำลังใจ ไม่ดุ และพยายามทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
การสังเกตพฤติกรรม = กุญแจสู่ความเข้าใจ
พฤติกรรมเหล่านี้คือเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่สุนัขใช้ในการสื่อสาร หากเจ้าของเรียนรู้และใส่ใจ จะสามารถเข้าใจความต้องการและอารมณ์ของสุนัขได้ดีขึ้น ส่งผลให้การเลี้ยงดูเป็นเรื่องสนุก และทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับเจ้าของ
- สังเกตพฤติกรรมซ้ำ ๆ ถ้าเห็นบ่อยผิดปกติ อาจมีปัญหาสุขภาพ
- ใช้การฝึกเชิงบวก (Positive Reinforcement) เพื่อลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
- อย่ามองข้ามเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย เพราะสองสิ่งนี้มีผลต่อพฤติกรรมโดยตรง
สรุป
สุนัขไม่ได้พูดภาษามนุษย์ แต่เขามีภาษาของตัวเองผ่านพฤติกรรมต่าง ๆ การเข้าใจ “10 พฤติกรรมสุนัขที่เจ้าของควรรู้” ไม่เพียงช่วยให้การเลี้ยงดูง่ายขึ้น แต่ยังทำให้คุณใกล้ชิดกับสุนัขมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงในระยะยาว
สนใจติดต่อ ล้างแอร์ https://lin.ee/YDoymRa